WORLD CUP 2018 POWER RANKINGS

FIFA World Cup Russia 2018

ภาพประกอบโดย FIFA.com

จัดอันดับฟุตบอลโลก 2018: เยอรมันจะยังได้แชมป์หรือไม่

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เยอรมันและบราซิลต่างเป็นผู้นำในการจัดอันดับสุดยอดทีมทรงพลังในศึกฟุตบอลโลก 2018 นี่คือรายชื่อทีมที่ได้รับการจัดอันดับที่จะสามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2018 อย่างไรก็ตามทุกทีมมีโอกาสในการคว้าชัยในศึกฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้

 

  1.    เยอรมัน ฟุตบอลโลก 2018 

Germany

ภาพประกอบโดย Yahoo Sports

ฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี เป็นทีมหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการคว้าชัยฟุตบอลโลก FIFA World Cup ในประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่เข้าแข่งขันในปี 1934 และจบที่สามในการแข่งขัน แต่ความสำเร็จสูงสุดที่ได้รับการบันทึกไว้คือปี 1954, 1974, 1990 และ 2014 ที่คว้าชัยฟุตบอลโลกกลับประเทศได้

ในปี 1954 ชัยชนะของเยอรมันมาจากกัปตัน Fritz Walter ในนัดที่เจอกับฮังการีที่พ่ายไป 3-8 ประตู แต่เมื่อทั้ง 2 ทีมได้กลับมาพบกันอีกในรอบตัดสิน เยอรมันสามารถชนะไปได้ด้วย 3-2 ประตู

ในปี 1974 ด้วยการเป็นเจ้าภาพคว้าถ้วยเป็นสมัยที่ 2 หลังจากพ่ายให้แก่ เนเธอร์แลนด์ 2-1 ประตูที่มิวนิก

ปี 1990 เยอรมันสามารถคว้าแชมป์ได้อีกครั้งในการพบกับอาร์เจนตินาที่สนาม Stadio Olimpico ที่กรุงโรม นับเป็นแชมป์ครั้งที่ 3 ของถ้วยฟุตบอลโลก

และในปี 2014 เยอรมันผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2014 และคว้าชัยชนะกลับบ้านได้สำเร็จอีกครั้ง

นอกจากนี้ เยอรมันยังคว้าชัยในศึก European Championships ในปี 1972, 1980 และ 1996 ถ้วย Confederation Cup ในปี 2017 จากผลงานที่กล่าวมาทำไมจะเป็นไปไม่ได้ที่เยอรมันจะได้ชูถ้วยรางวัลฟุตบอลโลก 2018 อีกครั้งไม่ได้

 

  1.  Brazil บราซิล ฟุตบอลโลก 2018

Brazil

ภาพประกอบโดย FIFA.com

ฟุตบอลทีมชาติบราซิลเคยได้คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก FIFA World Cup ถึง 5 ครั้งในปี 1958, 1962, 1970, 1994 และ 2002 สำหรับสถิติของบราซิลนั้นได้คว้าแชมป์ทั้งหมด 4 ทวีปเลยทีเดียว ยุโรป(สวีเดน), อเมริกาใต้(ชิลี) และ อเมริกาเหนือ(เม็กซิโกและอเมริกา)

น่าเสียดายที่ผลการแข่งขันของ Selecao ได้รับชัยชนะถึง 70 ครั้งจาก 104 แมตช์ที่พวกเขาเล่น

ไม่เพียงแค่ฟุตบอลโลกเท่านั้น ยังรวมถึงถ้วย FIFA Confederations Cup ในปี 1997, 2005, 2009 และ 2013 อีกด้วย

 

  1. Spain สเปน ฟุตบอลโลก 2018

Spain

ภาพประกอบโดย FIFA.com

ต่างจากบราซิลและเยอรมัน ฟุตบอลทีมชาติสเปนสามารถคว้าถ้วยฟุตบอลโลกมาครองได้เพียงครั้งเดียวในปี 2010 อย่างไรก็ดีไม่สามารถยับยั้ง La Roja ในการเข้าสู่สามทีมตัวเต็งในการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ได้ ด้วยผลงานในอดีตที่ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ถึง 14 ครั้งจากทั้งหมด 20 ครั้ง

ถึงแม้สเปนจะปรากฎชื่อในการแข่งขันฟุตบอลโลกไม่บ่อยนัก แต่สเปนไม่เคยหลุดจากโผตัวเต็งเลยน สเปนทีมที่สามารถคว้าแชมป์ UEFA European Football Championships ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนชิป ในปี 1964, 2008 และ 2012 รวมถึงฟุตบอลโอลิมปิกในปี 1992

 

  1. France ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2018

France

ภาพประกอบโดย FIFA.com

ฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลกและได้รับชัยชนะในปี 1998 ถึงแม้จะเพียงครั้งเดียวก็ตาม ฝรั่งเศสได้พ่ายให้แก่บราซิลในสนามที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ 3-0 ประตู ในทำนองเดียวกันกับบราซิล ทีมสีน้ำเงินฝรั่งเศส หรือทีมตราไก่ ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกได้ถึง 14 ครั้ง โดยการผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้ถึง 5 ครั้งและรอบชนะเลิศถึง 2 ครั้งด้วยกัน

ในศึกฟุตบอลโลกปี 1958 และ 1986 ฝรั่งเศสรั้งอันดับ 3 และในปี 2006 ได้รองชนะเลิศ

ในลีกชั้นนำ ฝรั่งเศสได้รับถ้วย UEFA European Championship ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนชิป ในปี 1984 และ 2000

 

  1. Argentina อาร์เจนติน่า ฟุตบอลโลก 2018

Argentina

ภาพประกอบโดย FIFA.com

อย่างไม่ต้องสงสัย ฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินาไม่เคยหลุดโผตัวเต็งในการแข่งขันฟุตบอลโลก จากผู้เล่นที่แข็งแกร่งสามารถนำทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบแรกได้ถึง 16 ครั้ง และ 5 ครั้งสำหรับรอบรองชนะเลิศ จนได้แชมป์ในปี 1978 และ 1986

ถึงแม้จะได้แชมป์ฟุตบอลโลกเพียง 2 ครั้ง แต่ความสำเร็จของ La Albiceleste ในลีกดังเช่น Copa América โคปป้า อเมริกาด้วยชัยชนะมากถึง 14 ครั้ง และแชมป์เปี้ยนชิปของอเมริกาใต้ในปี 1941, 1945 และ 1946

 เมื่อไม่นานมานี้ในปี 1992 กับ FIFA Confederations Cup สามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ นอกจากนั้น 1995 และ 2005 ได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศ

 

  1.  Belgium เบลเยียม ฟุตบอลโลก 2018

Belgium

PHOTO CREDIT: FIFA.com

ปฏิเสธไม่ได้ว่าฟุตบอลทีมชาติเบลเยี่ยมทำผลงานได้ดีในการเข้าสู่รอบสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลกได้ถึง 12 ครั้ง

และยังเพิ่มความเข้นข้นมากขึ้นด้วยการเป็นทีมจากฝั่งยุโรปทีมแรกที่สามารถผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ด้วยชัยชนะ 2-1 นั่นหมายความว่านี่เป็นครั้งที่ 13 ที่ฟุตบอลทีมชาติเบลเยี่ยมเข้าร่วมฟุตบอลโลก

แต่ในความเป็นจริงฟุตบอลทีมชาติเบลเยี่ยมจับฉลากต้องพบกับ ฟุตบอลทีมชาติปานามา, ฟุตบอลทีมชาติตูนีเซีย และฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ในกลุ่มจีที่รัสเซียในเดือนมิถุนายนนี้ หวังว่าซุปเปอร์สตาร์ฝีเท้าดีอย่าง Romelu Lukaku, Kevin De Bruyne และ Eden Hazard จะทำผลงานได้ดีในการแข่งขันครั้งนี้

ฟุตบอลทีมชาติเบลเยียมเข้าสู่รอบสุดท้ายในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกเมื่อปี 1930 และยังมีปีต่อๆ มาอีกมากมาย

บันทึกประวัติศาสตร์สำหรับฟุตบอลทีมชาติเบลเยี่ยม 1930, 1934, 1938, 1954, 1970, 1982, 1986, 1990, 1994, 1998, 2002, 2014 และ 2018

ในตอนนี้ตำแหน่งของฟุตบอลทีมชาติเบลเยียมอยู่ในอันดับที่ห้าจากการประมาณการอันดับ

 

  1. Portugal โปรตุเกส ฟุตบอลโลก 2018


ภาพประกอบโดย FIFA.com

ฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกสผ่านเข้าสู่การแข่งขันฟุตโลกรอบสุดท้ายได้ถึง 7 ครั้งแล้วเมื่อนับรวมฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องพบกับการทดสอบที่ยากลำบากเมื่อต้องพบกับฟุตบอลทีมชาติสเปนแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ในแมตช์แรกของกลุ่มบีในวันที่ 16 มิถุนายน ก่อนจะพบกับฟุตบอลทีมชาติโมรอคโคและฟุตบอลทีมชาติอิหร่าน

เราคาดหวังว่ารางวัล Ballon d’Or ของ Cristiano Ronaldo คริสเตียโน โรนัลโด จะช่วยนำฟอร์มของฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกสคว้าแชมป์ในฟุตบอลโลก 2018 ได้สำเร็จ

ในการแข่งทั้ง 6 นัดในฟุตบอลโลก 2014 ที่จัดโดยบราซิล ฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกสทำประตูได้ 4-2 คว้าชัยชนะเหนือฟุตบอลทีมชาติสวีเดน และ โรนัลโดเองทำประตูได้ถึง 4 เสมอฟุตบอลทีมชาติสหรัฐอเมริกา, ฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี และฟุตบอลทีมชาติกาน่าในกลุ่มจี พวกเขาตกรอบจากการทำประตูของฟุตบอลทีมชาติอเมริกา ฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกสพ่ายให้แก่ฟุตบอลทีมชาติเยอรมันถึง 0-4 ประตูนับเป็นการพ่ายที่ไม่เคยมีมาก่อนในศึกฟุตบอลโลก ก่อนจะเสมอ 2-2 กับ ฟุตบอลทีมชาติสหรัฐอเมริกา และชนะ 2-1 ต่อฟุตบอลทีมชาติกาน่า

ฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกสรั้งอันดับสามในการจัดอันดับของ ฟีฟ่า กับการเดินทางสู่ฟุตบอลโลกเริ่มต้นเมื่อปี 1966 และถูกบันทึกไว้ว่าได้อันดับที่สาม

 

  1. Nigeria ไนจีเรีย ฟุตบอลโลก 2018

Nigeria

ภาพประกอบโดย FIFA.com

ฟุตบอลทีมชาติไนจีเรีย ยังคงฟอร์มร้อนแรงที่สามารถเข้าร่วมฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียได้สำเร็จ ขาดเพียงแค่ครั้งเดียวในปี 1994 ฟุตบอลทีมชาติไนจีเรียผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายในการแข่งขันฟุตบอลโลกได้ถึง 6 ครั้งภายใต้การการนำทีมของ Gernot Rohr

การสยายปีกของทีมแอฟริกันจนเข้าสู่การคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 ฟีฟ่าเวิลด์คัพหลังจากเอาชนะแซมเบียไป 1-0 สมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกันเปิดตัวกลุ่มการแข่งขันกลุ่มไนจีเรีย เหนือแซมเบียแอลจีเรียและแคเมอรูน

ฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมันเป็นครั้งแรกที่ ฟุตบอลทีมชาติไนจีเรียผ่านรอบคัดเลือกและจบลงด้วยการเสมอกับ ฟุตบอลทีมชาติแองโกลา

ฟุตบอลทีมชาติไนจีเรียปรากฎขึ้นในการแข่งขันรอบสุดท้ายของ ฟีฟ่าเวิลด์คัพ หลังการแข่งขัน 5 นัดในปี 1994 ที่เขาสามารถเข้าไปได้ถึงรอบสองของการแข่งขัน นับเป็นครั้งที่ 6 แล้วสำหรับฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย

ในปี 2010 ฟุตบอลทีมชาติไนจีเรีย ผ่านเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลโลกได้โดยการที่แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้โชคดีนักเมื่อเสียประตูให้แก่ฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินาไป 1-0 และ 2-1 แก่ฟุตบอลทีมชาติกรีซ แต่พวกเขายังมีโอกาสเข้าสู่รอบ 16 ทีมด้วยการพบกับฟุตบอลทีมชาติเกาหลีใต้ แต่ต้องจบลงด้วยการเสมอ 2-2

ในปี 2014 ฟุตบอลทีมชาติไนจีเรียโชคไม่ดีนักเมื่อต้องพบกับ ฟุตบอลทีมชาติอิหร่านในฟุตบอลโลก 2014 และต้องเสมอไปในที่สุด อย่างไรก็ตามทีมไม่เคยยอมถอยในนัดที่สองที่ต้องพบกับฟุตบอลทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ฟุตบอลทีมชาติไนจีเรียสามารถไต่อันดับขึ้นได้นับตั้งแต่ปี 1998 ต้องขอบคุณการทำประตูในนาทีที่ 29 ของ Emmanuel Emenike ถึงแม้จะแพ้ให้แก่ฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินาในนัดที่ 3 ฟุตบอลทีมชาติไนจีเรียยังคงสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมได้ ในการพบกับฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสแต่ไม่สามารถผ่านปราการด่านนี้ไปได้ทำให้ตกรอบ 16 ทีมในศึกฟีฟ่าเวิลด์คัพครั้งนั้นไป

 

  1.  Uruguay อุรุกวัย ฟุตบอลโลก 2018

Uruguay

ภาพประกอบโดย FIFA.com

ฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัยนับเป็นอีกทีมที่ประสบความสำเร็จอีกทีมหนึ่งในวงการฟุตบอล นับเป็นทีมที่ 13 ที่ปรากฎชื่อทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ทั้งยังได้อันดับสองใน CONMEBOL เบียดกับโบลิเวีย 4-2 เพื่อเข้าสู่รอบคัดเลือกฟุตบอลโลกต่อไป

ความสำเร็จนี้มมาจากไหน สำหรับใครที่ประหลาดใจฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัยสามารถคว้าชัยชนะได้ถึง 19 ครั้งด้วยกัน โดยที่ 15 ครั้งจาก โคปป้าอเมริกา 2 ครั้งจาก โอลิมปิกในปี 1924 และ 1928 และ 2 ครั้งจาก FIFA World Cup

นับแต่เริ่มต้นฟุตบอลโลกในปี 1930 ฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัยมีโอกาสได้เป็นทั้งเจ้าภาพและเอาชนะเหนือฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินาไปด้วยชัยชนะ 4-2 ในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน และอีกครั้งโดยการเอาชนะฟุตบอลทีมชาติบราซิลไปด้วย 2-1 ประตูในปี 1950

นอกจากนั้นฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัยสามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้ถึง 2 ครั้ง 5 ครั้งสำหรับรอบรองชนะเลิศและนอกนั้นผ่านเข้าสู่รอบ 2 โดยในปี 1934 ฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัยปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการแข่งขันและตัดสินใจที่จะปกป้องตำแหน่งของตนเพราะเวลานั้นหลายประเทศในยุโรปปฏิเสธที่จะเข้าร่วมฟุตบอลโลกในปี 1930 และพวกเขาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมในปี 1938 เนื่องจากการตัดสินใจของฟีฟ่าที่จะฉลองโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1936 ที่จัดการแข่งขันในฝรั่งเศสที่นำไปสู่ไม่พอใจในอเมริกาใต้เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าสถานที่นั้นควรสลับไปมาระหว่างสองทวีป

 

  1. Poland โปแลนด์ ฟุตบอลโลก 2018

Poland


ภาพประกอบโดย FIFA.com

หลังจากห่างหายไป 12 ปี ฟุตบอลทีมชาติโปแลนด์กลับมาอีกครั้งเพื่อทำสถิติครั้งที่ 8 ในการเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย เมื่อพบกับฟุตบอลทีมชาติแอฟริกันในรอบคัดเลือก ฟุตบอลทีมชาติเซเนกัล ฟุตบอลทีมชาติโคลอมเบีย จากอเมริกาใต้ และ ฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น

จากทั้งหมด 32 ทีมในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้ ตัวเต็งสำหรับกลุ่มเอชย่อมมี ฟุตบอลทีมชาติโปแลนด์เป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากในกลุ่มนี้ไม่มีทีมจากชาติใดเคยได้รับถ้วยในรางวัลใหญ่มาก่อน

ฟุตบอลทีมชาติโปแลนด์เข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1938 จัดขึ้นในประเทศฝรั่งเศส และพ่ายให้แก่ฟุตบอลทีมชาติบราซิลในรอบแรก 5-6 ประตู พวกเขาปรากฎรายชื่อเข้าร่วมแข่งขันล่าสุดเมื่อฟุตบอลโลก 2006 แต่ต้องถ่ายอีกครั้งให้แก่ฟุตบอลทีมชาติเอกวาดอร์ 0-2 และ 0-1 แก่ฟุตบอลทีมชาติเยอรมัน ก่อนจะชนะฟุตบอลทีมชาติคอสตาริกา 2-1

ในขณะที่ฟุตบอลทีมชาติโปแลนด์สามารถเข้าสู่รอบรองแชมป์ฟุตบอลโลกได้ในปี 1974 ที่แพ้ให้กับฟุตบอลทีมชาติเยอรมัน 1-0 และจบการแข่งขันด้วยการชนะ 1-0 คว้าที่สามไปครองได้สำเร็จ โดย Grzegorz Lato ชนะรางวัล Golden Boot ด้วยสถิติการทำประตูมากถึง 7 ประตูด้วยกัน

ฟุตบอลทีมชาติโปแลนด์จบการแข่งขันด้วยตำแหน่งที่สามในปี 1980 โดยเอาชนะฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสไปด้วย 3-2 ประตู ในปัจจุบันฟุตบอลทีมชาติโปแลนด์จัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 7 ของฟีฟ่า FIFA